โรคเบาหวานเกิดจากสาเหตุ?

โรคเบาหวานเกิดจากสาเหตุหลายประการ...

---

เบาหวานแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
-เบาหวานชนิดที่ 1 Type 1 Diabetes หรือ Insulin-Dependent Diabetes Mellitus : IDDM เกิดจากภูมิต้านทานของร่างกายทำลายเซลล์ที่สร้างอินซูลินในตับอ่อน ทำให้ร่างกายหยุดสร้างอินซูลิน ผู้ป่วยต้องพึ่งพาการฉีดอินซูลิน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในระยะยาว ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการปรับการกิน
-เบาหวานชนิดที่ 2 Type 2 Diabetes หรือ Non-Insulin-Dependent Diabetes Mellitus: NIDDM ร่างกายเกิดอาการดื้ออินซูลินที่เซลล์สร้างขึ้น ทำให้ไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ได้อย่างเหมาะสม
สามารถแบ่งออกได้ เป็นแบบอ้วน และแบบไม่อ้วน หากตรวจพบแต่เนิ่นๆ และรีบปรับเปลี่ยนอาหารการกินพร้อมกับออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ โดยส่วนใหญ่แล้วก็สามารถรักษาให้หายได้
สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน
สาเหตุของโรคเบาหวานมีหลายปัจจัยร่วมกันทั้งปัจจัยทางพันธุกรรม (genetic factor) และปัจจัยสิ่งแวดล้อม (environmental factor)
* กรรมพันธุ์

* น้ำหนักเกิน ความอ้วน ขาดการเคลื่อนไหว ขาดการออกกำลังกาย

* อายุที่มากขึ้น มีโอกาสเป็นเบาหวานได้มากขึ้น

* โรคของตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบ ได้รับการผ่าตัดตับอ่อน

* การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น หัด หัดเยอรมัน คางทูม ซึ่งมีผลต่อตับอ่อน

* ความเครียดเรื้อรัง

* การได้รับยาบางชนิด ทำให้มีการสร้างน้ำตาลมากขึ้นหรือการตอบสนองของอินซูลินได้ไม่ดี

* การตั้งครรภ์ เนื่องจากมีการสร้างฮอร์โมนจากรกหลายชนิด ซึ่งมีผลยับยั้งการทำงานของอินซูลิน

อาการของโรคเบาหวาน มีดังนี้
อาการของคนเสี่ยงที่เป็นเบาหวาน คือ  รู้สึกหิวบ่อย , กระหายน้ำ , ปัสสาวะมีปริมาณมากและบ่อย และยังมีอาการอื่นๆร่วมดัวย เช่น
* เหนื่อย อ่อนเพลีย

* ผิวแห้ง เกิดอาการคันบริเวณผิว

* ตาแห้ง

* มีอาการชาที่เท้า หรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ปลายเท้า หรือที่เท้า

* ร่างกายซูบผอมลงผิดปกติ โดยไม่สามารถหาสาเหตุได้

* เมื่อเกิดบาดแผลที่บริเวณต่างๆ ของร่างกายมักหายช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะแผลที่เกิดกับบริเวณเท้า

* สายตาพร่ามัวในแบบที่หาสาเหตุไม่ได้

ใครบ้างที่เสี่ยงเบาหวาน
* อายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป

* มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน

* เป็นผู้มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน

* ความดันโลหิตสูง (ความดันโลหิตตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอท)

* สตรีที่มีประวัติเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือน้ำหนักบุตรคนแรกคลอดมากกว่า 4 กิโลกรัม

* ไม่ออกกำลังกาย 

* ดื่มสุรา

* สูบบุหรี่

* สตรีที่มีโรคถุงน้ำในรังไข่ 

* เคยตรวจพบ ระดับน้ำตาลสะสม Hemoglobin A1C (Hb A1C) มากกว่าหรือเท่ากับ 5.7 % , ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน (Impaired fasting glucose) คือมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือด 100-125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

* ไขมันชนิดชนิดเอชดีแอล (HDL) น้อยกว่า 35 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หรือ ไตรกลีเซอไรด์(TG) มากกว่า 250 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

10 สัญญาณอันตราย โรคเบาหวาน
1. อ่อนเพลียง่าย ทั้งๆ ที่พักผ่อนเพียงพอ และไม่ได้ป่วยไข้

2. ผอมลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ

3. ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ

4. หิวน้ำมากกว่าปกติ (เพราะร่างกายสูญเสียน้ำจากการปัสสาวะบ่อย)

5. ตาพร่ามัวลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ

6. ปวดขา ปวดเข่า

7. ผิวหนังแห้ง และมีอาการคัน อาจจะคันตามตัว หรือคันบริเวณปากช่องคลอด

8. เป็นฝีตามตัวบ่อยๆ

9. อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย

10. แผลหายช้า ไม่แห้งสนิท หรือขึ้นสะเก็ดเสียที
13 สิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปฏิบัติ
1. พยายามงดอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นหวาน มัน หรือเค็ม 

2. รับประทานผัก และผลไม้ที่ไม่หวานจัดเพื่อเพิ่มกากใยอาหาร

3. ควบคุมน้ำหนัก

4. งดสูบบุหรี่ และงดดื่มสุรา

5. ออกกำลังกายเป็นประจำในแบบแอโรบิค วันละ 30 นาที 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ตามคำแนะนำของแพทย์ กรณีไม่มีข้อห้าม

6. ระวังอย่ารับประทานยาใด ๆ เองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะยากลุ่มที่เป็นเสตียรอยด์ ยาฮอร์โมน หมั่นศึกษาหาความรู้ในการดูแลตนเอง

7. ทำจิตใจให้สงบ และผ่อนคลายความเครียด ไม่โกรธ หรือโมโหง่าย

8. ดูแลและตรวจเท้าทุกวัน เพื่อสำรวจแผลที่ง่ามนิ้วเท้า ฝ่าเท้า

9. ดูแลสุขภาพฟัน

10. ติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ

11. รับประทานยาเพื่อควบคุมความดันโลหิต หรือเบาหวานตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

12. ผู้ป่วยและผู้ดูแลสังเกตอาการผิดปกติเนื่องจากภาวะน้ำตาลต่ำหรือสูงเกินไป เช่น หน้ามืด ใจสั่น หมดสติ
13. เลือกรับประทานอาหารจำพวกแป้งจากธัญพืชที่ไม่ขัดสี ในปริมาณที่พอเหมาะ


สมุนไพรธนทร เบาหวาน สมุนไพรจีน รักษาเบาหวาน สาเหตุของโรคเบาหวาน